วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559


หน่วยการเรียนรู้ที่3 การเขียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 


1.การเขียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ารเขียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือกลไกสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้มนุษย์สื่อสารถึงกันได้สำเร็จตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีโดยใช้รูปแบบของสื่อเป็น
เกรณ์ในการแบ่ง ปัจจุบันสื่อต่างๆ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้มนุษย์มีทางเลือกสำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวันมากขึ้น

1.1 ความหมายและความสำคัญ

สื่ออิเล็กทรอนิกส์
                       เป็นสื่อการเรียนการสอนที่เกิดจากการวิวัฒนาการของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบการสื่อสารโทรคมนาคม
ความหมาย “สื่ออิเล็กทรอนิกส์” 
                      สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic media) หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วย
วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อาจอยู่ในรูปของ สื่อบันทึกข้อมูลประเภทสารแม่เหล็กเช่น แผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อน (floppy disk) และสื่อประเภทจานแสง(optical disk)บันทึกอักขระแบบดิจิตอลไม่สามารถอ่านได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บันทึกและอ่านข้อมูล เป็นสื่อการเรียนการสอนที่เกิดจากวิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคม การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการเรียนการสอนจะออกมาในลักษณะของสื่อประสม หรือมัลติมีเดีย (Multimedia) แสดงผลออกมาหลายรูปแบบตามที่โปรแกรมไว้ เช่น มีเสียง เป็นภาพเคลื่อนไหว สามารถให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ ปัจจุบันสื่อประเภทนี้มีหลายลักษณะ







1.2 ประเภทของสื่ออิเล็กทรอนิกส์

        
1. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI
                         CAI ย่อมาจากคำว่า COMPUTER-ASSISTED หมายถึง สื่อการเรียน
การสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ใน
การนำเสนอสื่อประสม ได้แก้ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟิก แผนภูมิ กราฟ วีดีทัศน์
ภาพเคลื่อนไหวและเสียง








  2. WBI (Web-based Instruction)
                       คือ บทเรียนที่สร้างขึ้นสำหรับการเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โดยนำจุดเด่นของวิธีการให้บริการข้อมูลแบบ www มาประยุกต์ใช้
Web Base Instructionจึงเป็นบทเรียนประเภท CAI แบบ On-line ใน
ที่นี้หมายความว่า ผู้เรียนเรียนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ติดต่อผ่านเครือ
กับเครื่องแม่ข่ายที่บรรจุบทเรียน

 3. การเรียนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Learning
                         เป็นการศึกษาเรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต
หรืออินทราเน็ตเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผู้เรียนจะได้เรียนตามความ
สามารถและความสนใจของตนโดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย
ข้อความ รูปภาพ เสียง วีดีโอ มัลติมีเดียอื่นๆ


4. E-book
                         เป็นคำภาต่างประเทศ ย่อมาจากคำว่า electronic book หมายถึง หนังสือที่
สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์โดยปกติ
มักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่านเอกสารทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบ
ออฟไลน์และออนไลน์
          5. E-Training
                         E-Training หมายถึง กระบวนการการฝึกอบรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เป็นกระบวนการจัดการฝึกทักษะ เพิ่มพูนสาระความรู้ ที่เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรม
นั้นเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้เข้าอบรมมีอิสระในการเข้าศึกษา เรียนรู้ตามเวลา โอกาสที่
ผู้ฝึกอบรมต้องการโดยเนื้อหาขององค์ความรู้จะถูกออกแบบมาให้ศึกษาเรียนรู้ได้
โดยง่าย ในรูปแบบมัลติมีเดียซึ่งประกอบด้วยสื่อที่เป็นข้อความรูป หรืออาจมี
ภาพเคลื่อนไหว
          6. Learning Object
                         หมายถึง การจัดรูปแบบสาระการเรียนรู้เป็นหน่วยที่เป็นอิสระ
ใช้เวลาสำหรับการเรียนรู้ เป็นช่วงสั้นๆ ประมาณ 2 ถึง 15 นาที และถึงแม้
ว่าจะเป็นการเรียนรู้แบบหน่วยย่อยก็ตาม Learning Object จะมีความสมบรูณ์
ในตัวเอง ซึ่งในแต่ละเนื้อหาจะประกอบชื่อเรื่อง คำอธิบาย คำสำคัญ วัตถุประสงค์
การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมินผล ประการหนึ่งคือ ผู้เรียนสามารถ
เรียนรู้ด้วยตนเอง




1.3 บทบาทของสื่ออเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวัน
       1. ด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล
                       1.1  สร้างความเข้าใจร่วมกัน คือ การสื่อสารที่มุ่งเน้นให้ผู้รับสารเข้าใจเนื้อหาสาระหรือข้อมูลร่วมกันอย่างถูกต้อง เช่น การสื่อสารภายในองค์กรเพื่อปฏิบัติงานร่วมกัน เป็นต้น 
                       1.2 สร้างความชื่นชอบ คือ การสื่อสารที่ไม่สื่อสารเฉพาะข้อมูลข่าวสารแต่มีอารมณ์ความรู้สึกและความพึงพอใจร่วมกัน จะช่วยสร้างสัมพันธภาพและความชื่นชอบในการสื่อสารซึ่งกันและกัน 
                       1.3 สร้างอิทธิพลต่อการมีทัศนคติร่วมกัน ความล้มเหลวในการสื่อสารบางครั้งเกิดจากความไม่เข้าใจในความคิดและทัศนคติของกันและกัน ดังนั้น การสร้างความเข้าใจร่วมกันจะทำให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้ 
                       1.4 เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ ปัจจัยที่สำคัญที่สามารถส่งผลต่อความสำเร็จในการสื่อสารคือความรู้สึกที่ดีต่อกัน ดังนั้นการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันจะช่วยให้การสื่อสารในครั้งต่อๆ ไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
                      1.5 เพื่อให้เกิดการกระทำตามความต้องการ การสื่อสารในแต่ละครั้งมีวัตถุประสงค์ประการหนึ่ง คือ การสร้างความมุ่งหมายร่วมกัน เพื่อให้เกิดความคิดเห็นร่วมกันและการกระทำร่วมกันในสิ่งที่ต้องการ 

         2. ด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

              2.1. ข้อมูลประเภทข่าวการรายงานเหตุการณ์ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเผยแพร่สู่ประชาชนโดยทั่วไปได้ทราบ โดยเริ่มจากการแสวงหาความเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เชื่อว่าประชาชนจะให้ความสนใจ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวกีฬา ข่าวอาชญากรรม ข่าวบันเทิง เป็นต้น

                  2.2. ข้อมูลประเภทความรู้เชิงวิชาการและความรู้ทั่วไป สื่ออิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทในการเผยแพร่ข้อมูลประเภทนี้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ในรูปของการเขียนแสดงความคิดเห็น การตั้งข้อสังเกต

              2.3. ข้อมูลประเภทโฆษณาประชาสัมพันธ์  เป็นกระบวนการสื่อสารที่สร้างภาพจำที่ดี การสร้างความสัมพันธ์กับประชาชนขององค์กรต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นไปเพื่อป้องกันหรือแก้ไขความเข้าใจผิดอีกด้วย ส่วนการโฆษณา คือ การนำเสนอข่าวสาร ข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ สินค้าหรือบริการเพื่อชักชวน โน้มน้าวใจให้ผู้รับสารเกิดอารมณ์ความรู้สึกคล้อยตาม นอกจากนี้ยังโฆษณาในลักษณะชวนเชื่อ (Propaganda) ได้แก่ การเสนอข่าวสารในเชิงชักชวน ปลุกระดม ชี้นำความคิด รวมไปถึงการโฆษณาสินค้า

              2.4. ด้านความบันเทิง สื่ออิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทด้านความบันเทิง นำเสนอเรื่องราวที่ทำให้ผู้รับสารเกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนาน ผ่อนคลายความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน ทั้งยังเป็นความบันเทิงที่แสวงหา เข้าถึง และรับชมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตลอดเวลา เพียงแค่เชื่อมสัญญาณอินเทอร์เน็ต

              2.5. ด้านงานราชการ  ปัจจุบันหน่วยงานราชการเป็นหน่วยงานที่นำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อให้บริการด้านต่างๆ ตามบทบาทและหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทยใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลการแจ้งเกิด แจ้งตาย ย้ายที่อยู่ หรือทำบัตรประชาชน เป็นต้น

              2.6. ด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ได้นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการศึกษา คำนวณค้นคว้าและวิจัย รวมทั้งจำลองสิ่งต่างๆ ในทางวิทยาศาสตร์ให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น และสร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เช่น การจำลองรหัสพันธุกรรม การพยากรณ์อากาศ การเตือนแผ่นดินไหว เป็นต้น

              2.7. ด้านโทรคมนาคม รถไฟ รถไฟฟ้า รถประจำทาง เครื่องบิน ได้นำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในส่วนของการเดินทาง เช่น การสำรองที่นั่งออกบัตรโดยสาร การตรวจสอบตารางการเดินทาง เป็นต้น สามารถเชื่อมโยงไปยังสถานีต่างๆ ได้ ทำให้สะดวกและไม่เสียเวลาในการเดินทาง นอกจากนี้ใช้สำหรับการควบคุมระบบจราจรทางบกและทางอากาศที่จะช่วยจัดระเบียบการจราจรเป็นอย่างดี

              2.8. ด้านธุรกิจ คอมพิวเตอร์ถูกนำมาใช้ในงานธุรกิจ ทั้งจัดทำเอกสารนำเสนองาน เช่น การตรวจสอบยอดเงินคงเหลือของสินค้า ธุรกิจออนไลน์นำคอมพิวเตอร์มาใช้ในรูปแบบของการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต (e-commerce) เป็นต้น

              2.9.ด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม  วิศวกรออกและสถาปนิกได้นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการออกแบบ เขียนแบบจำลองโครงสร้างของงานต่างๆ โดยนำคอมพิวเตอร์มาบ่วยเรื่องการคำนวณที่มีความซับซ้อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและรวดเร็ว

2.แนวทางการเขียนเพื่อผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

การเขียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไม่แตกต่างจากงานเขียนประเภทอื่นในแง่ขององค์ประกอบในการเขียน กล่าวคือ  มีส่วนเริ่มต้น  ส่วนเนื้อหา  และส่วนลงท้าย  การเขียนย่อหน้า  แม้การเขียนเพื่อสื่อสารกับคนคุ้นเคยอาจจะไม่ต้องเคร่งครัดเรื่องรูปแบบการเขียน  แต่ยังคงต้องรักษาความถูกต้อง  ชัดเจนเหมาะสมกับผู้รับสาร  มีประเด็นที่ควรคำนึงถึงสำหรับการใช้ภาษาที่ดี  ได้แก่
  1. ใช้คำให้เหมาะสมกับความนิยม
  2. กาลเทศะ หรือ  การใช้ภาษาเขียนให้เหมาะสมกับระดับของผู้รับสาร
  3. ความสุภาพ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำหรือข้อความที่มีความหมายแฝง  หรือ  มีในทำให้ตีความได้ในแง่ลบ
  4. สื่อความตรงไปตรงมา ควรยึดหลักใช้ภาษาเขียนอ่านเข้าใจง่าย







นางสาว กนกวรรณ หมีนาค เลขที่ 5 ม.5.9
นางสาว ปริญญา อ่อนสำอางค์ เลขที่ 19 ม.5.9